ภูเดช แสนสา
คำล้อเลียน “เมืองแป้แห่ระเบิด” หรือ “เมืองแพร่แห่ระเบิด” เป็นสำนวนที่คนจังหวัดแพร่เมื่อออกไปพบปะกับผู้คนต่างจังหวัดมักได้รับการทักทายเมื่อพบหน้าด้วยสำนวนนี้ รวมไปจนถึงในวงเหล้าที่มีเพื่อนฝูงมาจากต่างจังหวัดกัน ก็นิยมยกขึ้นมาแซวกันสนุกปาก อย่างน้อยช่วง พ.ศ.๒๕๐๐ ก็พบว่าได้เกิดคำล้อเลียนนี้ขึ้นแล้ว โดยเฉพาะคนจังหวัดที่อยู่ใกล้เคียงกับจังหวัดแพร่ เช่น จังหวัดน่านก็นิยมล้อเลียนในช่วงนี้[๑] คนเมืองแพร่ที่ถูกทักทายด้วยสำนวนนี้ บางคนก็รู้สึกงง บางคนก็รู้สึกเฉยๆ บางคนก็รู้สึกตลกขบขัน บางคนก็รู้สึกอาย หรือบางคนก็รู้สึกโกรธ แล้วแต่บุคคลและสถานการณ์
ส่วนที่รุนแรงก็คือเคยมีการนำเอาสำนวนนี้ไปกล่าวกระทบกระทั่งกันในที่ประชุมผู้บริหารระดับประเทศในวันที่ ๑๖ สิงหาคม พ.ศ.๒๕๕๕ และเกิดกรณีพิพาทออกสื่อดังไปทั่วประเทศอยู่หลายวัน ซึ่งก็ยังไม่มีใครอธิบายได้ชัดเจนว่าสำนวนนี้จริงๆ แล้วจากไหน
จนกระทั่งช่วงพ.ศ.๒๕๕๓ จึงเกิดการค้นคว้าที่มาทำการอธิบายใหม่เพื่อตอบโจทย์และตอบโต้กับคำล้อเลียนนี้ว่า
“ระเบิดที่แห่มีจริง ไม่ได้แห่เพราะการไม่รู้จักระเบิดจนแตกตายไปครึ่งเมือง แต่ระเบิดที่กล่าวถึงคือระเบิดสมัยสงครามโลกครั้งที่ ๒ (พ.ศ.๒๔๘๔ –๒๔๘๘) นำแห่ไปถวายวัดเพื่อทำระฆังที่อำเภอลอง จังหวัดแพร่”
และกลายเป็นคำอธิบายกระแสหลักที่คนทั้งประเทศรับรู้ เพราะมีการประชาสัมพันธ์เผยแพร่ผลิตซ้ำอยู่อย่างสม่ำเสมอ ทั้งทางโทรทัศน์ นิตยสาร วารสาร หนังสือพิมพ์ เอกสาร แผ่นพับ เว็บไซต์ต่างๆ ตลอดจนถึงการเดินทางมาเที่ยวชมในสถานที่จริง แต่ในมุมมองของผู้เขียนกลับไม่เห็นด้วยกับคำอธิบายนี้ เพราะอะไร แล้วคำล้อเลียนนี้มาจากไหน เป็นเรื่องที่เกิดจากการแห่ระเบิดไปทำระฆังจริงหรือไม่ หรือเป็นเพียงคำล้อเลียนเพื่ออิงความตลกขบขัน ท่านผู้อ่านลองพิจารณาไปทีละประเด็นได้ตามที่ผู้เขียนนำมาเสนอในบทความฉบับนี้